สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ทุกคน กระทู้นี้ตั้งใจมาชมเลยค่ะ จากที่ได้ติดตามข่าว ว่าบ้านเมืองเราเริ่มเอาสายต่างๆ ลงดินกันแล้ว ทั้งสายระบบสื่อสาร และ สายไฟ มีรูปสวยๆ จากกระทู้รุ่นพี่ที่เคยมาลงไว้ก่อน ก็มีอยู่หลายจังหวัด https://pantip.com/topic/35158569 กรุงเทพมหานคร - ถนนสีลม ลพบุรี - ถนนเส้นหลักของเมือง น่าน - ถนนรอบข่วงเมือง เชียงใหม่ - ถนนท่าเเพ ตรัง - ถนนพระราม 6 ต่อเนื่องมา ถนนกันตัง-ห้วยยอด และถนนราชดำเนิน ภูเก็ต - ถนนกระบี่ ขอนเเก่น - ถนนศรีจันทร์ บุรีรัมย์ - ถนนเสด็จนิวัติ สงขลา - สี่เเยกตลาดกิมหยงในหาดใหญ่ หาดใหญ่ เอาสายไฟลงใต้ดินแล้วดูสะอาดตามากๆ cr:kapook http://world.kapook.com/pin/53b23fda38217a6a6d000000 เท่าที่ค้นดูจากข่าว เริ่มกันมานานแล้ว แต่เห็นบอกว่า 5 ปีนี้ จะเห็นความเปลี่ยนแปลง ด้านล่างนี้ จขกท. เก็บข่าวที่พูดถึงเรื่องการเอาสายต่างๆ ลงดิน มาไล่เรียงดู เพื่อเราจะได้เอาไว้ติดตามกัน ว่าเมื่อถึงวันนั้นแล้ว วันที่สายต่างๆ ลงดินไปแล้ว ภูมิภูมิทัศน์ -- โครงการสายไฟลงดิน สำนักข่าวไทย อสมท หลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้การไฟฟ้านครหลวงดำเนินการเปลี่ยนสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงใต้ดินใน 39 เส้นทางในเขต กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ ระยะทาง 127 กม. ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว วันนี้ 5 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงนามความร่วมมือบูรณาการการทำงาน เพื่อให้การนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินมีความสะดวก รวดเร็วขึ้น และอาจลดระยะเวลาของโครงการที่จะเสร็จสิ้นใน 10 ปี ให้เหลือเพียง 5 ปีได้ -- การนำสายไฟฟ้าลงดิน ถนนราชวิถี ถนนราชวิถีเป็นต้นแบบในการนำสายไฟฟ้าลงดินของกรุงเทพมหานคร ล่าสุดได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
จากภาพทั้งสายไฟและสายสื่อสารลงไปอยู่ใต้ทางเท้าเรียบร้อยหมดแล้ว -- โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศลงใต้ดิน จากมติของ ครม. ถนนสีลมและสุขุมวิท -- ล่าสุด -- -- กฟน. ผนึกกำลัง กสทช. - สมาคมโทรคมนาคมฯ นำสายสื่อสารลงดิน -- ถนนมหานครแห่งอาเซียน โครงการถนนพหลโยธิน จากบริเวณห้าแยกลาดพร้าว-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ การนำสายสื่อสารลงใต้ดินโครงการถนนพหลโยธินมีทั้งหมด 4 เฟส โดยเฟสแรกจะเริ่มจากบริเวณห้าแยกลาดพร้าว-จตุจักร และคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปี 2560 ถือเป็นโครงการนำร่องที่สำคัญ เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ตามแผนปรับปรุงภูมิทัศน์แบบเร่งรัดของกรุงเทพมหานคร มาคอยดูกันว่า ต่อไปจากนี้ บ้านเมืองเราจะสวยงามกันแค่ไหน เป็นเรื่องดีกับประเทศไทย และเยาวชนไทยที่เราจะไม่ต้องตอบคำถามเด็กๆ ว่าทำไมสายบนเสาต้องเยอะขนาดนั้นด้วย