BlackBerry Z10 จากตระกูลผลไม้ดำ กินยังไงให้อร่อย

ดูรอบๆตัวเครื่องกันก่อนเลยครับ ด้านหน้า ด้านบนก็จะเป็น ลำโพง, เซนเซอร์, กล้องหน้า, และ เซนเซอร์ วัดแสง (มั้ง).. ผมว่า ทำออกมาได้สวยงามเลยนะ ถึงแม้ว่า จะออกมาหน้าตาคล้ายๆ กะ คู่แข่ง อย่าง HTC One และ iPhone 5.. แต่ผมว่า Z10 ดูเรียบหรูกว่า วัสดุสีด้าน ทั้งบน และล่าง มันทำให้ หน้าจอดูเงางามขึ้นนะ



ด้านหน้าเรียบๆครับ ไม่มีปุ่มอะไรเลย เวลาจะใช้งาน ก็ใช้ สไลด์ หลักการเดียวกับ Playbook คือ ถ้าต้องการจะ minimize โปรแกรมที่ใช้อยู่เราก็แค่ สไลด์จากล่างขึ้นบน แต่การทำแบบนี้ โปรแกรมจะ Run ใน background อยู่นะครับ (เดี๋ยวจะเล่าต่ออีกที)

ช่องไมค์ จะถุกซ่อนระหว่างรอยต่อ ของจอบจอด้านล่าง และ ท้ายเครื่อง.. ผมว่า เค้าดูใส่ใจกับรายละเอียดดี เหมือนตั้งใจซ่อน รูไมค์เบาๆ.. (เว่อร์ไปป่ะ) ^_^”



หน้าจอ 4.2” ผมว่าไม่ใหญ่เว่อร์ และไม่เล็กจิ๊ด เกินไป.. ใช้งานมือเดียวได้สะดวกดี น้องผมใช้ Note 2 อยู่เวลาจะกดโทรศัพท์ที ต้องคอยประคอง 2 มือ.. ใช้มือเดียว เจ้าโน๊ต จะแถลด ออกลงไปนอนจุ้มปุ๊ก ที่พื้นทุกที -*-



ความคมชัดของหน้าจอนี่ ผมว่าดีเลยทีเดียว น่าใช้มาก แต่ยังไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ ถึงแม้จะเร่ง Brightness จนสุดแล้วก็ตาม (แต่ผมก็ไม่เคยเร่งจนสุดซักที 5555)

ด้านซ้าย – เป็นช่องเสียบ Micro HDMI เอาไว้ต่อออกจอภาพ ต่อมาก็เป็น ช่อง Mini USB ไว้เสียบสาบชาร์จ ครับ

ด้านบน – เป็น ปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง, ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm และ รูน้อยๆ อีกรู นั่นผมว่า คงเป็น รูรับเสียงภายนอก เพื่อจะตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา (บางคนเรียก ไมค์ ตัวที่สอง.. อะไรก็ว่ากันไป)..

ด้านขวา – เป็นปุ่ม เพิ่ม และ ลดเสียง .. ส่วนตรงกลางนั้นเป็น ปุ่ม ใช้ Voice command และ ชัตเตอร์กล้อง เวลาอยู่ในโหมดกล้องถ่ายรูปครับ

ด้านล่าง – เป็น ช่องไว้สำหรับ “แงะ” ฝาหลังออก และช่องนี้แหละ ก็ทำหน้าที่เป็นช่องลำโพงด้วยครับ ^_^

ด้านหลัง – มีโลโก้ BlackBerry เป็น โครเมี่ยม และ วัสดุทำจากพลาสติกให้ความรู้สึกคล้ายๆ กับยาง และทำเป็นลายปรุ ให้กระชับมือยิ่งขึ้น.. อันนี้โดยส่วนตัว ผมชอบม๊ากกกก เพราะผมว่ามันหนึบๆมือดี ไม่ลื่น ไม่ต้องกลัว กดๆอยู่แล้วเครื่อง แถลด ไปโหม่งโลก.. ที่สำคัญไม่ต้องกลัวเป็น รอยนิ้วมือ เหมือน iPhone ไม่ต้องมาคอยเช็ดๆๆ ถูๆๆ

อันนี้เป็น หน้าจอแรกที่ Preload Application ต่างๆมาจากโรงงานเลยครับ เรียกว่า แอพที่ใช้กันบ่อยๆ อย่าง Facebook ก็มีมาให้แต่กำเนิด.. ที่เหลือก็สามารถไป ดาว์นโหลด ได้ฟรี ที่ BlackBerry World



ตอนนี้ที่ผมไม่ค่อยถุกใจคือ แอพ ที่อยู่ ใน BlackBerry World มันยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ครับ และ ที่สำคัญ ยังไม่มี แอพที่ผมใช้บ่อยๆ อย่าง LINE, IG, และ Skype (ซึ่งได้เห็นโฆษณาใน BlackBerry World ว่ากำลังจะมาเร็วๆนี้)... ขอให้มาเร็วๆละกันครับ ตอนนี้ใช้ BBM กะ Whatsapp ไปก่อน.. อิอิอิ



แต่สำหรับคนที่จะเล่น LINE และ IG ก็ยังมีทางออกครับ เรียกว่า การทำ Sideload โดยที่เราสามารถเอา แอพของ android มาใชงานบน Z10 ได้ โดยแทบไม่มีปัยหาเลยครับ ใครอยากรู้ เข้าไปถาม อากู๋ ว่า Sideload Z10 ได้เลยครับ มีวิธีทำอย่างละเอียด โผล่มาเพียบ ^_^

ฟังก์ชั่น หลักๆ ที่เด่นๆของรุ่นนี้ ที่ผมชอบ ก็คือ BlackBerry Hub โดยที่เรา สไลด์ หน้าจอไปทางซ้ายสุด ก็จะเจอฟังก์ชั่นนี้อยู่ครับ โดย BlackBerry Hub จะเป็นการรวม ทุกๆ การเคลื่อนไหวของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น SMS, Social Media (Facebook, Twitter, etc) หรือ อีเมล ต่างๆ.. เรียกว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงอะไร เช่น เพื่อนๆ อัพสเตตัสในเฟสบุ๊ค มันก็จะฟ้องขึ้นมา ใน Hub ทันทีครับ



อีกจุดนึงที่น่าสังเกตุคือ ในตัว BlackBerry Z10 นี้จะไม่มี icon email เหมือนรุ่นก่อนๆ เพราะตัวอีเมล จะถูกอัพเดทใน BlackBerry Hub เช่นกันครับ ตอนแรกผมหา icon email อยู่นานทีเดียว 5555

อ่อ.. อีกเรื่องนึงที่น่าจะถูกใจ แฟนๆ BlackBerry คือ.. ตอนนี้ BBM สามารถใช้งานได้ทันทีโดยที่ไม่ต้อง โดนชาร์ตค่าแพกเกจ BB เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ.. แค่เราใช้งาน โปรโมชั่น internet ปกติ ก็สามารถใช้ BBM ได้ทันดี.. เย่ๆๆๆๆ ^_^

อีกแอพนึง ที่ภูมใจนำเสนอมากกกกกก คือ Story Maker ครับ..  ผมตื่นตาตื่นใจกะมันเบาๆ เพราะแอพนี้สามารถเอารูปที่เราถ่ายมา ทำเหมือน slideshow แล้ว ใส่เพลงลงไปได้.. ประมาณเหมือน presentation ในงานแต่งงานเลยครับ แถมเจ้าแอพนี้ ยังสามารถใส่ effect ได้ด้วยนะครับ เช่น Black and White, Vintage, Retrospect, etc.

ความสวยงาม Application ชิดซ้ายเลย

ถ้าเทียบกับ 2 ยี่ห้อ ที่กำลังแข่งกันตอนนี้

ก็นะ แล้วแต่คนนิยม ใครชอบอะไรก็ใช้แบบนั้น