2 ค่าใช้จ่ายที่คู่บ่าวสาวส่วนใหญ่ มักพบเจอในการถ่ายพรีเวดดิ้ง คือ ค่าใช้จ่ายของการปรับค่าแสง สี รีทัชภาพ แต่งภาพ และ ค่าใช้จ่ายของค่าเข้าสถานที่ ซึ่งทั้ง 2 ค่าใช้จ่ายนี้มักถูกถกเถียงกันแทบตลอดเวลาว่าใครควรจ่าย คู่บ่าวสาว ? หรือรวมอยู่ในแพคเกจของการจ้างช่างภาพแล้วหรือไม่ ?
2 ค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่จะทำให้คุณหันมาใช้บริการถ่ายพรีเวดดิ้งในสตูดิโอ
ค่าปรับแสง สี รีทัช และแต่งภาพ
ในงานแต่งงานมักนิยมนำภาพพรีเวดดิ้งของคู่บ่าวสาวมาตกแต่งเป็นโฟโต้แกลลอรี่ภายในงาน เพื่อเพิ่มความสวยงามแล้วยังเป็นฉากหลังให้แขกที่มาร่วมงานได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันอีกด้วย ซึ่งภาพที่จะนำมาอัดขยายใช้สำหรับตกแต่งโฟโต้แกลลอรี่นี้ต้องมีการปรับแสง สี รัทัชภาพ และแต่งภาพ ซึ่งอาจจะต้องจ่ายเพิ่มนะคะ ฉะนั้นคู่บ่าวสาวควรดูให้ดีเสียก่อนว่าในแพคเกจมีการระบุไว้ไหมว่า "ปรับเเสงเเละโทนสีให้ฟรีทุกภาพ ไม่คิดค่าใช้จ่าย" หรือ "ฟรีรีทัชพิเศษ 10 รูป ลูกค้าเลือกรูปได้เอง" ถ้าไม่มีอย่าลืมถามให้ชัวร์ก่อนตกลงนะคะ
ค่าเข้าสถานที่
ในกรณีที่ช่างภาพไม่มีสตูดิโอของตัวเอง คู่บ่าวสาวจะต้องไปเช่าสตูดิโอสำหรับถ่ายพรีเวดดิ้งเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเช่าสตูดิโอส่วนใหญ่แล้วจะยังไม่รวมอยู่ในแพคเกจของการจ้างช่างภาพนะคะ และหากคู่บ่าวสาวอยากถ่ายพรีเวดดิ้งเอาท์ดอร์ โลเคชั่นสวยๆ เดี๋ยวนี้บางแห่งก็มีการเก็บค่าเข้าและใช้สถานที่แล้ว ดังนั้นคู่บ่าวสาวจึงควรเช็คกับช่างภาพให้ดีๆ ก่อนจ้างนะคะ งบจะได้ไม่บานปลาย
สรุปแล้ว ค่าใช้จ่าย 2 ข้อด้านบนนั้น จะไม่รวมอยู่ในแพคเกจของการจ้างช่างภาพ แน่นอนว่าคู่บ่าวสาวต้องออกเองทั้งหมด เพราะฉะนั้น การเลือกถ่ายพรีเวดดิ้งในสตูดิโอ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาจุกจิกในส่วนนี้ค่ะ